บ้านฟรีพิมรี่พาย กลายเป็นดราม่าแย่งที่
เป็นเรื่องที่สังคมชื่นชมอย่างมาก กรณี พิมรี่พาย ผ่านไปเจอ 2 พี่น้องเก็บของเก่าระหว่างทาง ก่อนจะขอตามไปถึงบ้าน จนทราบว่าอยู่กัน 4 คนแม่ลูก โดยนายตี๋ อายุ 46 ปี นายอ้อง อายุ 43 ปี และพี่ชาย อายุ 51 ปี ป่วยพิการสมอง ส่วนแม่คือ นางประสงค์ อายุ 68 ปี สภาพบ้านแสนโทรม เจ้าตัวทนไม่ไหวซื้อบ้านหลังใหม่ให้อยู่ เป็นบ้านน็อกดาวน์ มูลค่ารวม 2.4 แสนบาท ตามที่เคยเป็นข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เกิดประเด็นดราม่าที่มีการอ้างว่า นางมะล จูพันธ์ อายุ 47 ปี หลานสาวของนางประสงค์ ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินที่เป็นบ้านที่พิมรี่พายสร้างให้ ขับไล่ที่นางประสงค์กับลูก ๆ เพื่อหวังจะฮุบบ้านที่พิมรี่พายซื้อให้มาเป็นของตัวเอง จนทำให้ทีมงานของพิมรี่พาย ต้องลงพื้นที่มา จ.สุโขทัย อย่างเร่งด่วน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้
โดย สุโขทัยโพสต์ รายงานว่า นางมะลิ จูพันธ์ เปิดเผยทั้งน้ำตา รู้สึกเสียใจที่ถูกกล่าวหา คนในครอบครัวเดือดร้อนกันมาก เรากลายเป็นคนไม่ดีที่อยากได้ของคนอื่น ส่งผลกระทบต่ออาชีพค้าขาย ลูกค้าสั่งซื้อของน้อยลง ทั้งที่ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ตนคอยช่วยเหลือดูแลครอบครัวของนางประสงค์ (น้าสะใภ้) กับลูกทั้ง 3 คนมาตลอด ที่ผ่านมา ตนได้ให้ที่ดินปลูกบ้าน ตั้งแต่ปี 2555 และแบ่งปันอาหารให้กิน ทำธุระให้ทุกอย่าง เจ็บป่วยก็พาไปหาหมอ อยู่ร่วมกันมา 10 ปี ไม่เคยเกิดปัญหาวุ่นวาย กระทั่งมีเรื่องบ้านหลังนี้เข้ามา กลับมีดราม่ากล่าวหาว่าตนจะฮุบเป็นของตัวเอง ส่วนสาเหตุที่น้าสะใภ้กับลูก ๆ ยังไม่ย้ายเข้าบ้านหลังใหม่เพราะพวกเขาสะดวกที่จะอยู่หลังเก่าไปก่อน ไม่ใช่เพราะตนไปห้ามหรือหวงไว้เอง
ทั้งนี้ ที่ดินที่ใช้ตั้งบ้านหลังใหม่นี้ เดิมทีตั้งใจจะใช้ประโยชน์และต่อเติมบ้านตัวเอง แต่ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้แล้ว ตนกับครอบครัวก็ต้องอยู่ที่เดิม ส่วนที่ดินด้านหลังก็ยังเป็นที่อาศัยของน้าสะใภ้ "ฉันเสียโอกาสในการใช้ประโยชน์ที่ดินของตัวเอง และ 10 ปีที่ นางประสงค์มาอาศัยอยู่กับฉัน ฉันก็มีแต่ให้กับให้ คอยช่วยเหลือมาตลอด ทั้งที่ฉันกับครอบครัวก็มีชีวิตที่ลำบาก หาเช้ากินค่ำเหมือนกัน ยังไงก็ขอขอบคุณน้ำใจอันงดงามของพิมรี่พาย และขอโทษที่เกิดเรื่องวุ่นวายเช่นนี้" ขณะที่ นางประสงค์ ได้แต่ร้องไห้เสียใจอย่างหนัก ที่ทำให้นางมะลิกับครอบครัวต้องเดือดร้อนและถูกกล่าวหาเพราะเรื่องบ้าน จึงวอนขอให้คน ที่ไม่รู้เรื่องอะไรหยุดคำพูดให้ร้ายเหล่านั้น และอย่ามาวุ่นวายกับเรื่องของพวกเราอีกเลย
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ siamweek.com