ผัวคอตก เมียใจดำ ทำ QR Code แปะหน้าห้อง สแกนจ่ายเงินก่อนเข้า
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2565 เว็บไซต์ 163.com เผยเรื่องราวชีวิตคู่ของ เสี่ยวอิน และ เสี่ยวเหมิง ทั้งสองตกหลุมรักกันเมื่อ 10 ปีก่อน ภายหลังจากคบหากันประมาณครึ่งปี ก็ตกลงแต่งงานกัน และภายหลังจากแต่งงานได้ 7 เดือน พวกเขาก็มีลูกด้วยกัน ทุกอย่างเหมือนจะแฮปปี้เอนดิ้ง เป็นครอบครัวที่อบอุ่นมีความสุข ครองรักกันยาวนานเป็นทศวรรษ แต่ความจริงไม่ใช่เช่นนั้นเลย
เสี่ยวอิน ผู้เป็นสามีจะเป็นคนออกไปทำงานนอกบ้านต่างเมืองตลอดทั้งปี ในขณะที่เสี่ยวเหมิงคอยดูแลลูก ๆ อยู่ที่บ้าน ประกอบกับหางานพาร์ตไทม์ทำไปด้วย โดยเงินเดือนที่เสี่ยวอินได้รับ เกือบทั้งหมดเขาจะมอบให้ภรรยา ส่วนตัวเขาจะกลับมาบ้านมาหาภรรยาและลูก ได้แค่ช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาว อย่างไรก็ตาม เสี่ยวหยิน เผยว่า ทุกครั้งที่เขากลับบ้าน ภรรยาจะชอบไล่ให้เขาออกไปจากบ้าน เขาก็ไม่เข้าใจและมักจะเป็นปัญหาทะเลาะกันอยู่บ่อยครั้ง กระทั่งช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19 เสี่ยวอินจำเป็นต้องกลับมาอยู่บ้านชั่วคราวและไม่สามารถออกไปทำงานได้ และนั่นทำให้ยิ่งเกิดปัญหารุนแรงขึ้นระหว่างทั้งคู่ เมื่อเสี่ยวเหมิงรู้สึกว่า สามีให้เงินค่าขนมเธอน้อยเกินไป
หลังจากเกิดความไม่ลงรอยกันมากขึ้น ในที่สุดเสี่ยวเหมิงได้ทำรหัส QR Code ไปแปะไว้ที่ประตูหน้าห้องนอน เพื่อให้สามีสแกนก่อนเข้าห้อง ซึ่งไม่ใช่แค่สแกนผ่านอย่างเดียว แต่เขาต้องชำระเงินด้วยครั้งละ 200 หยวน หรือราว 1,000 บาท ซึ่งตรงนี้ เสี่ยวเหมิงกล่าวอ้างว่า ที่ผ่านมาเธอไม่มีเงินและทำได้เพียงอดทนกับมันอย่างเงียบ ๆ ในที่สุด เสี่ยวอินทนไม่ไหวจึงยื่นฟ้องหย่าภรรยา อีกทั้งยังขอพาเด็กไปตรวจพิสูจน์ความเป็นพ่อ ท้ายที่สุด หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการ ศาลพิจารณาให้เสี่ยวเหมิงเป็นฝ่ายผิด เธอต้องเลี้ยงของเธอลูกคนเดียว ส่วนสินสมรสทั้งหมดให้ตกเป็นของเสี่ยวอิน แต่เสี่ยวอินต้องจ่ายเงิน 158,000 หยวน (ราว 820,000 บาท) ให้กับเสี่ยวเหมิง สำหรับค่าบ้านที่ซื้อก่อนแต่งงานและเป็นชื่อของเธอ
อย่างไรก็ดี เสี่ยวอิน ไม่ยอมรับคำตัดสินของศาล ชี้ว่า เสี่ยวเหมิงต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายชดเชยค่าเสียหายทางจิตใจของเขาตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และในเมื่อไม่มีการประนีประนอมของทั้งสองฝ่าย เรื่องราวความขัดแย้งของทั้งสองก็ยังคงอยู่ระหว่างดำเนินการฟ้องร้องและรอผลการตัดสินต่อไป
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ siamweek.com