หนุ่มทำงานเปย์แฟน 4 ปี เรียนจบขอแต่งงาน โดนตบ

หนุ่มทำงานเปย์แฟน 4 ปี เรียนจบขอแต่งงาน โดนตบ

หนุ่มเจ็บหัวใจ ทำงานเปย์แฟนสาว 4 ปี จนเรียนจบ รวบรวมความกล้าขอแต่งงาน โดนตบหน้า เหยียดเป็นแค่พนักงานส่งของ กล้ามาขอได้ไง ความรักมีปัจจัยหลายอย่าง สำหรับหลาย ๆ คนนอกจากความผูกพัน ความเข้าใจ และเวลา เรื่องเงิน ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่น้อย

แต่สำหรับบางคนก็อาจจะให้ความสำคัญกับมันมากเกินไป ถึงขนาดที่สามารถทำร้ายจิตใจของคนที่รักกันได้อย่างเจ็บปวด ดังเรื่องราวของเธอคนนี้ วันที่ 20 มกราคม 2565 เว็บไซต์ 163.com เผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นที่บริเวณริมถนนในเมืองกวางโจว ประเทศจีน มีผู้ชายรายหนึ่งในชุดพนักงานส่งของ กำลังขอหญิงสาวแต่งงาน ในตอนแรกดูคล้ายว่าจะเป็นสถานการณ์ที่น่ายินดี แต่หลังจากนั้นอยู่ ๆ ฝ่ายชายโดนผู้หญิงตบหน้าเต็มแรง ทำเอาหลายคนที่เดินผ่านต่างตกใจไปตามกัน

ตามรายงานท้องถิ่น ระบุว่า ชายหนุ่มและหญิงสาวคู่นี้เป็นแฟนกัน ทั้งคู่คบหากันมาหลายปี ระหว่างที่ฝ่ายหญิงกำลังเรียนมหาวิทยาลัย 4 ปี เขาก็ทำงานเป็นพนักงานส่งของ หาเงินค่าใช้จ่ายและดูแลสนับสนุนเธอ จนกระทั่งเมื่อเธอเรียนจบ ชายหนุ่มก็รวบรวมความกล้า ขอเธอแต่งงาน เพราะมั่นใจแล้วว่าเธอคือคนที่เขาอยากใช้ชีวิตครอบครัวด้วย เมื่อไปเจอกันที่บริเวณเกิดเหตุ หญิงสาวแต่งชุดมาด้วยความสวยงาม ฝ่ายชายหยิบแหวนหมั้นที่เตรียมไว้ออกมา ก่อนจะสารภาพขอแต่งงานกับหญิงสาว

แต่กลับถูกเธอตบหน้าและปฏิเสธ พร้อมกับตะโกนใส่หน้าเขาเสียงดัง 4 ปีแล้ว คุณยังเป็นพนักงานส่งของอยู่เลย คุณจะให้ความสุขอะไรกับฉัน คุณจะแต่งงานกับฉันได้อย่างไร ราคาบ้านในกวางโจวแพงมากเลยนะ จะใช้เงินเดือนของคุณ 8,000 หยวน(ราว 41,000 บาท) อย่างนั้นเหรอ ? หญิงสาว กล่าว

หลังจากที่ชายหนุ่มได้ยินคำพูดของฝ่ายหญิง เขาก็หมดความอดทน โยนแหวนเพชรในมือทิ้งไป ก่อนที่จะเดินจากไป โดยไม่ลืมที่จะหยิบกระเป๋าใส่อุปกรณ์คู่ใจที่เขาใช้หาเงิน และสุดท้ายความสัมพันธ์รักของเขาและเธอดูเหมือนจะจบลงไปเช่นนี้ และการทำงานหนักของเขาตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ไม่มีความหมายอะไรเลย

ภายหลังจากเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ไปในโซเชียลมีเดีย หลายคนก็เข้าไป วิพากษ์วิจารณ์ กล่าวว่า เห็นใจฝ่ายชายที่ต้องมาเจอผู้หญิงเช่นนี้ พร้อมทั้งแนะนำ โดยรายหนึ่งกล่าวว่า การทุ่มเทเพื่อคนที่รักเป็นเรื่องที่ดี แต่ความพยายามและการเสียสละเพียงฝ่ายเดียว อาจทำให้อีกคนมองไม่เห็นคุณค่า หรืออาจจะพูดได้ว่า มันไม่ใช่รักแท้เลย

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ