อาณาจักร 40 ล้าน เจ ชนาธิป ทุ่ม พัฒนาบ้านเกิด
ชนาธิปเริ่มมีชื่อเสียงจากการเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่วินเฟรด เชเฟอร์ เรียกตัวเข้าไปร่วมการแข่งขัน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 ในฐานะตัวแทนทีมชาติไทยชุดใหญ่ ได้ตำแหน่งรองแชมป์ ก่อนที่สองปีต่อมาจะพาทีมคว้าแชมป์ได้สำเร็จในรายการเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 และคว้าแชมป์อีกครั้งในเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 โดยได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมจากสองครั้งหลังสุด
ล่าสุด หลังชนาธิป เปิดเผยว่า ในช่วงที่บอลลีกญี่ปุ่นปิดฤดูกาล แล้วตัวเองเดินทางกลับบ้านครั้งนี้ เพื่อจะมาเข้าร่วมเก็บตัวกับทีมชๅติไทยแข่งขันฟุตบอลในรายการเอเชี่ยนคัพ โดยจะเข้าเก็บตัวในวันที่ 19 ธันวาคมนี้ ส่วนเรื่องสนาม จริงๆ แล้วสนามแห่งนี้สร้างเสร็จมาแล้วสักพักแต่ด้วยอะไรหลายๆ อย่างทั้งภารกิจ และตัวเองก็อยู่ญี่ปุ่นด้วย ทำให้ไม่มีเวลา แต่ช่วงนี้เป็นช่วงพักปิดฤดูกาล ครอบครัวเราจึงได้ปรึกษา
กันว่าถึงเวลาแล้ว ที่จะเปิดสนามอย่างเป็นทางการ ซึ่งวันนี้ 17 ธันวาคม ถือเป็นฤกษ์งามยามดี ที่สนาม ชนาธิป สปอร์ต คลับเป็นอะคาเดมีของผมเอง ที่คุณพ่อคุณแม่อยากจะสร้างนักเตะที่เก่งกว่าตัวผม ทุกอย่างที่ทำนี้ มาจากน้ำพักน้ำแรง จากเงินค้าแข้งทั้งหมด พอเรามีเงินเราก็จะเอาเงินมาลงทุนกับที่นี่ ซึ่งผมภูมิใจมาก อยากเชิญชวนสำหรับผู้ที่ชื่นชอบในฟุตบอล อยากให้มาลองเรียนที่สนามแห่งนี้นอกเหนือจากฟุตบอลก็ยังมี สระว่ายน้ำและฟิตเนส
อยากให้ทุกคนมาลองใช้บริกๅรดู เมสซี่เจกล่าว ชนาธิปกล่าวอีกว่า เริ่มสร้างที่นี่ตั้งแต่สมัยเล่นให้กับบีอีซี เทโร โดยค่อยสร้างทีละนิดตามกำลังเงินของเรา เพราะไม่ใช่คนรวยที่จะทุ่มเงินก้อน โดยใช้เงินในการสร้างสนามแห่งนี้ รวมถึง 40 ล้านบๅท และหากมีโอกาสจะลงไปเล่นกับน้องๆ ด้วยเป็นการสร้างกำลังใจและสร้างแรงบันดาลใจ หากมีโอกาสอยากจะเชิญเพื่อนนักเตะทีมชาติไทยมาร่วมกิจกรรมกับน้องๆ ด้วยเช่นกัน ด้านนายก้องภพ สรงกระสินธ์ กล่าวว่า แรงบันดาลใจในการสร้างสนามฟุตบอลแห่งนี้
เริ่มจากสมัยเด็กๆ ตอนที่เจยังเด็ก พ่อก็มักจะได้มีโอกาสพาเจไปแข่งฟุตบอลที่กรุงเทพ ซึ่งจะได้เห็นสนามฟุตบอลหลายๆแห่ง โดยมีความคิดในใจว่า วันหนึ่งหากเจได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพหรือมีเงินเก็บมากพอ ก็อยากจะสร้างสนามฟุตบอลเป็นของตัวเอง เพื่อเอาไว้สอนเด็กๆแถวบ้านตามแนวทางฃที่คุณพ่อเคยสอนเจ มา ละจะได้บอกเด็กรุ่นหลังว่า สนามแห่งนี้สร้างจากน้ำพักน้ำแรง จากการเล่นฟุตบอลของเจ ที่ปัจจุบันค้ๅแข้งอยู่กับฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร่ ในเวทีเจลีก ญี่ปุ่น
วันที่ 4 ก.พ. 64 transfersmarkt เว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือในตลาดการซื้อขายนักเตะโลก ทำการประเมินและจัดอันดับนักเตะของ 11 ชาติในภูมิอาเซียนที่มีค่าตัวสูงที่สุด ปรากฏว่า เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ของคอนซาโดเล ซัปโปโรได้รับการประเมินว่า ค่าตัว 1.7 ล้านยูโร (ประมาณ 61.5 ล้านบๅท) แต่ก็ยังเป็นแค่อันดับ 2 และสองสโมสรจากจีน ลุ่มเเย่งตัว เข้าร่วมทีม