เป็นดาราสาวที่แจ้งเกิดในวงการบันเทิง หลังคว้าตำแหน่งมิสทีนไทยแลนด์ 2008 สำหรับ มะนาว ศรศิลป์ ที่ ปัจจุบันเธอผันตัวเองมาเป็นนักแสดงอิสระ ควบคู่กับการทำงานประจำที่ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำแห่งหนึ่ง แผนกสร้างภาพลักษณ์องค์กร (CSR) และโฟกัสกับการทำธุรกิจส่วนตัว

หลังจากหมดสัญญานักแสดงช่อง 7 “หมดสัญญากับช่อง 7 แล้ว รู้สึกว่าตัวเองโตขึ้น อยากทำอะไรที่ท้าทายมากขึ้น และหลังจากได้ไปเรียนจนจบปริญญาโทแล้ว มีความรู้สึกติดใจอยากเรียนต่ออีกสเต็ป ส่วนงานละครก็อยากรับบทที่แตกต่างจากไปจากเดิม อาจจะเล่นปีละสองถึงสามเรื่อง เพื่อไม่ให้กระทบกับการประจำที่เราทำอยู่” “นาวรับผิดชอบงานสร้างภาพลักษณ์องค์กร ดูเรื่องสังคม เด็ก รวมไปถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม ถือว่าเป็นโจทย์ยากพอสมควร เราจะทำยังไงดีเพื่อปลูกฝังให้พนักงาน ให้เด็กๆ และทุกคนในสังคมเข้าใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เข้าใจว่าโลกมันเปลี่ยนไปเราจะแก้ปัญหายังไง ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ การเป็นไปของบ้านเมือง”

มะนาว ส่งท้ายการเปิดใจครั้งนี้ ด้วยการพูดถึงเรื่องความรัก เธอบอกว่า หลังจากตัดสินใจไปเรียนต่อปริญญาโท ที่ประเทศอังกฤษ มีการวางเป้าหมายในชีวิตชัดเจนมากขึ้น ทำให้ไม่ได้โฟกัสเรื่องนี้จริงจัง แต่ก็ไม่ได้ปิดกั้นตัวเอง”อายุใกล้เลข 3 ปีหน้าก็เลข 3 แล้ว กลับมานั่งทบทวนว่า เรามีอะไรที่มันประสบความสำเร็จแล้วบ้าง เราคาดหวังอะไร เราวางแผนอะไรมันไปถึงหรือยัง ตอนนี้อยากโฟกัสเรื่องงาน อยากโฟกัสเรื่องความสำเร็จ

ที่ผ่านมา อยู่ดีๆ ก็งานเข้าซะงั้นสำหรับสาว มะนาว ศรศิลป์ หลังมีข่าวลือในเรื่องสาเหตุการหย่าร้างของ ส้ม ชนัดดา กับ ธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ และได้รับเงินค่าเลี้ยงดูกว่า 100 ล้านบาท โดยบอกว่า ซึ่งเรื่องนี้ได้เป็นที่สนใจของชาวโซเชียลอย่างมาก เพราะทั้งคู่เป็นพ่อกับแม่ของหนุ่ม พีช พชร โดยบอกว่า สาเหตุต้นเรื่องของการหย่าร้างนั้นมีมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง และในข่าวลือดังกล่าวก็ได้บอกใบ้ไว้ว่า มือที่สามคนนั้นก็คือ ดาราสาวสังกัดช่องมากสี มีชื่อเล่นเป็นผลไม้รสเปรี้ยว ซึ่งจากการเดาชื่อผลไม้นั้น แทบจะขนกันมาทั้งสวนเลยทีเดียว และชื่อ มะนาว ศรศิลป์ ก็ถูกพาดพิงด้วย โดย มะนาว ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด คนใกล้ชิดของเธอก็ได้เผยคลิปที่ มะนาว ได้พูดชี้แจงแบบสั้นๆ และตรงประเด็นว่า “ไม่ว่างนะคะไม่ว่าง ไม่ใช่ด้วยนะจ๊ะ เดากันมั่วเลยจ้า”