พระมหาสมปอง ร้องไห้ โดนกดดัน ขู่จะจับสึก
พระมหาสมปอง หลั่งน้ำตาขณะกำลังไลฟ์ ยอมทุกอย่างให้ปฏิบัติตตามกฎ ถึงขนาดนั้นยังโดนขู่จะจับสึก กลั้นไม่ไหวน้ำตาพระสงฆ์หลั่งออกมา ด้านพระมหาไพรวัลย์ ฝากถึงคนที่จ้องจะจับสึก ตอนบวชก็ไม่ได้มาลำบากด้วยกัน ฉะนั้นจะบวชหรือสึก ไม่ต้องสาระแน
ชื่อของพระมหาไพรวัลย์กับพระมหาสมปอง พระลูกวัดสร้อยทอง ในช่วงหลังมานี้นับว่าโด่งดังพอสมควร เนื่องจากมีการไลฟ์เกี่ยวกับธรรมะผ่านอินเทอร์เน็ต ได้รับความสนใจจากคนรุ่นใหม่อย่างล้นหลาม อย่างไรก็ตาม ก็มีเสียงวิจารณ์มาจากกลุ่มหนึ่ง ตั้งคำถามว่า การที่พระทั้งสองรูปไลฟ์แล้วมีการหัวเราะ เป็นการผิดศีลหรือไม่ เพราะตามแนวคิดดั้งเดิมคือ พระจะต้องสำรวม ไม่หวือหวา ล่าสุด วันที่ 10 ตุลาคม 2564 ตอนหนึ่งของการไลฟ์ระหว่างมหาไพรวัลย์กับพระมหาสมปอง มีการพูดถึงประเด็นนี้ในตอนหนึ่ง ซึ่งพระมหาสมปอง
กล่าวว่า อยากจะชวนคุยประเด็นที่ทำให้โยมตกใจเรื่องหนึ่ง ทำไมคนต้องจ้องสึกเราด้วยนะ วันนี้ไปดูฟุตบอลการกุศล พร้อมกับช่วยบริจาคน้ำท่วมที่ จ.ชัยภูมิ ก็มีการคุยกับศรายุทธ ชัยคำดี หรือโจ้ 5 หลา อดีตกองหน้าทีมชาติไทย, ไผ่ พงศธร ว่า ถ้าโดนสึกเดี๋ยวมาเตะบอลด้วยกัน ใช้งานเราเถอะ ไม่ต้องสึกเราหรอก ถึงเวลาเราก็ไปเอง
ด้านพระมหาไพรวัลย์ กล่าวเสริมว่า ตอนบวชโยมก็ไม่ได้มาลำบากกับการบวชของอาตมา ฉะนั้นอาตมาจะอยู่หรือจะสึก ไม่ต้องสาระแน เอาเวลาไปดูแลชีวิตแต่ละคนดีกว่า จะอยู่บนโลกอีกไม่กี่ 10 ปีก็จะตายกันหมดแล้ว ช่วยกันทำสิ่งดี ๆ เพื่อสังคมจะดีกว่า เรื่องนี้เวลาพระอาจารย์ (พระมหาสมปอง) ทำดี ช่วยเหลือคน มักไม่เป็นประเด็น แต่พอมีเรื่องหลุดขึ้นมา โดนสื่อทำข่าวทันทีให้คนด่า ผมว่ามันเป็นธรรมไหม ?
พระมหาสมปอง เล่าต่อถึงความกดดันในใจ เจออะไรบ้าง
นอกจากนี้ พระมหาสมปอง ยังกล่าวในตอนหนึ่งของไลฟ์อีกว่า พอมีคำเตือนว่าพระผู้ใหญ่จ้องจับผิด ทำให้อาตมารู้สึกไม่กล้าทำอะไรทั้งนั้น ทำไมคนต้องจ้องสึกเราด้วยนะ ทำไมคนที่ต้องดูแลเรา ตอนนี้กลับมาจ้องจับสึกเรา ด้านแม่ของพระมหาสมปอง เป็นผู้ป่วยติดเตียง ชอบดูทีวี พอเห็นข่าวช่องหนึ่งมักตีข่าวว่า พระมหาสมปองจะถูกสึก ทำให้แม่ของพระมหาสมปองไม่สบายใจและเป็นกังวล ส่วนทางพี่สาวก็โทรศัพท์มาถามเรื่องนี้บ่อย ๆ ซึ่งพระมหาสมปองก็ต้องมาคุยอธิบาย หลัก ๆ คือ เป็นห่วงจิตใจแม่มาก
ไม่ว่าพระผู้ใหญ่จะให้พระมหาสมปองทำอะไร ก็ทำให้ทั้งนั้น เช่น ให้เรียนบาลีก็เรียน ทั้งที่ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเรียนไปทำไม แต่ก็ทำให้ตลอด ไม่ให้พูดบางเรื่องก็ไม่พูด ให้หยุดพูดก็หยุด ทำขนาดนี้แล้วยังจ้องจับสึก จะต้องหารทำร้ายผมไปทำไม ให้ผมเรียนผมก็เรียน ให้ผมท่องผมก็ท่อง ให้ผมไม่พูดผมก็ไม่พูด ให้ผมหยุดผมก็หยุด ผมดื้อเหรอ ขนาดนี้ แล้วคุณจ้องจับสึกผมคืออะไรว้า มีคนแนะนำผม เป็นเจ้าคุณหรือยัง อาจจะแซวอาจจะเล่น ผมก็บอกว่าผมสายฮาสายอะไร ไม่ค่อยสำรวม ให้คนที่เขาอยากเป็น เขาควรได้ พวกมึงอะไรนักหนาวะ (เสียงสั่น) บางทีผมก็เหนื่อย (เริ่มหายใจไม่ทัน) มึงจ้องสับสึกกูนี่ กูทำอะไรวะ ไปขัดแข้งขัดขาใคร (เสียงสั่นชัดเจน)
ขณะเดียวกัน พระมหาสมปองยังเล่าว่า แม่สิตางศุ์ บัวทอง เคยมาบอกว่า เขาโดนยกเลิกงานเนื่องจากถูกพระมหาสมปองพาดพิง ซึ่งท่านก็งงมากว่าไปพูดตอนไหน หรือเพราะพูดตอนที่อ่านข่าวแทนหนุ่ม กรรชัย พอไปอ่านข่าว ก็โดนคนด่าอีกว่า พระอ่านข่าวทำไม ทั้งที่เราช่วยเขาเท่านั้น พยายามหาทางสอดแทรกธรรมะเข้าไปแล้ว แต่ด้วยเวลาอันจำกัด บวกกับต้องใช้สมาธิในการจำข่าว ทำให้ไม่สามารถใส่ธรรมะได้เต็มที่
อีกประเด็นหนึ่งที่โดนด่า คือ ทำไมไม่ขำเหมือนในไลฟ์ ก็อยากจะบอกว่า มันเป็นข่าวฆ่ากันตาย จะให้ไปตลกอะไร พวกมันรู้ความกดดันของเราบ้างไหม "กูมีความรู้สึกนะเว่ย พวกมึงอะไรกันนักหนาวะ เมื่อกล่าวจบประโยคนี้ พระมหาสมปองก็ร้องไห้ ขณะที่พระมหาไพรวัลย์ กับพระอาจารย์นภันต์ ก็ให้กำลังใจในทันที