ดราม่าร้อนจากจีน เหอเจียจิ้ง หรือ องครักษ์จั่นเจา จ้างงานไม่เป็นธรรม ให้เงินเดือนต่ำเกินไป ชาวเน็ตวิจารณ์สนั่นโลกออนไลน์ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2564 เว็บไซต์ซันนิวส์ของจีน เผยว่า เกิดประเด็นที่วิพาษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์ประเทศจีน กรณีของ เหอเจียจิ้ง นักแสดงชายชื่อดังวัย 61 ปี หรือ องครักษ์จั่นเจา ตัวละครสุดหล่อเหลาและทรงพลัง จากเรื่อง เปาบุ้นจิ้น

ภายหลังจากเขาผันตัวไปเป็นนายจ้างเปิดรับสมัครงาน แต่ปรากฏว่ากำหนดให้ค่าแรงให้น้อยเกินไป ตามรายงานเผยว่า ในขณะที่นักแสดงรายอื่นยังคงรับงานแสดงควบคู่ไปกับการทำธุรกิจส่วนตัว แต่เหอเจียจิ้งแตกต่างออกไป ในปี 2554 เขาเริ่มต้นธุรกิจกับเพื่อน และเปิดโรงงานแปรรูปอาหารร่วมกับหุ้นส่วน จากนั้นเขาก็ค่อย ๆ หายไปจากวงการบันเทิง ก่อนจะหันไปจับธุรกิจแบบเต็มตัว และไม่มีผลงานการแสดงหลังจากนั้น แฟนๆ ที่ติดตามเสียใจไม่น้อย แต่ก็หวังว่าเขาจะประสบความสำเร็จในอาชีพของเขา

ทว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ชาวเน็ตได้โพสต์ประกาศรับสมัครงานของโรงงานของเหอเจียจิ้ง พร้อมด้วยรูปถ่ายของเขาขณะรับบทเป็นจั่นเจา ก่อนจะกลายเป็นที่สนใจอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ใช่เพราะเรื่องรูปลักษณ์ของเขา แต่เป็นเพราะข้อกำหนดและเงื่อนไขในประกาศสมัครงานดังกล่าว โดยแม้ว่าเงื่อนไขการรับสมัครจะไม่จำกัดเพศชายหรือหญิง และไม่ใช้วุฒิการศึกษา แต่ให้เงินเดือน 3,500-5,500 หยวน (ประมาณ 18,000-28,000บาท) ซึ่งรวมกับการทำงานล่วงเวลา หลายคนจึงวิจารณ์ว่าต่ำเกินไป

สำหรับเงินเดือนขั้นต่ำของโรงงานปกติอยู่ที่ประมาณ 3,000-4,000 หยวน (ราว 15,000-21,000 บาท) และในเมืองเล็ก ๆ อาจอยู่ที่ประมาณ 2,500 หยวน (ราว 13,000 บาท) แต่ทั้งนี้มีค่าล่วงเวลาตามกฎหมายเพิ่มต่างหาก ดังนั้นค่าจ้างของโรงงานของเหอเจียจิ้งที่อยู่ในเมืองฮุ่ยโจวมณฑลกวางตุ้ง จึงถือว่าต่ำมากจริง ๆ เรื่องราวนี้กลายเป็นประเด็นที่โต้เถียงรุนแรง ส่วนหนึ่งเชื่อว่า การที่เขาเป็นบุคคลมีชื่อเสียงย่อมมีความน่าเชื่อถือ ควรจะให้เงินเดือนแรงงานอย่างเหมาะสม เพราะย่อมส่งผลต่อภาพลักษณ์และชื่อเสียงของเขาในสายตาชาวโลกด้วย

ขณะเดียวกัน ชาวเน็ตบางส่วนกลับมองว่าไม่เป็นธรรมกับเหอเจียจิ้ง ที่โรงงานของเขาจะมาถูกวิจารณ์เพราะเขาบุคคลที่มีชื่อเสียง โดยเชื่อว่าหลายอุตสาหกรรมในจีนยังคงอยู่ในช่วงฟื้นตัวหลังเกิดโรคระบาด แม้ว่าเงินเดือนที่โรงงานของเขาจะไม่สูง แต่ก็ยังคงแก้ปัญหาการจ้างงานของคนจำนวนมากที่มีวุฒิการศึกษาต่ำได้ อย่างไรก็ตาม เหอเจียจิ้ง ยังคงไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นใด ๆ เกี่ยวกับกรณีดราม่าที่เกิดขึ้นนี้