ผู้ประกันตนม.39 ม.40
หลังจากที่รัฐบาลประกาศ “ล็อกดาวน์” และ “เคอร์ฟิว” 10 จังหวัดสีแดงเข้ม หรือพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2564 จากนั้น วันที่ 20 กรกฎาคม ที่ประชุมครม. เห็นชอบ ขยายพื้นที่เยียวยาผู้ประกอบการและ ลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการโควิด-19 จาก 10 จังหวัด เป็น 13 จังหวัด โดยจังหวัดที่เพิ่มมาคือจังหวัด ฉะเชิงเทรา ชลบุรี อยุธยา
นางสาวลัดดา แซ่ลี้ โฆษกสำนักงานประกันสังคมให้สัมภาษณ์ผ่านรายวิทยุคลื่น เอฟเอ็ม 92.50 เกี่ยวกับมาตรา 39 และ มาตรา 40 จังหวัดสีแดงเข้ม 29 จังหวัด เมื่อเร็วๆนี้ โดยระบุว่าในส่วนของผู้ประกันตนมาตรา 33 ยังเหลือบางส่วนที่ยังโอนไม่ได้ ส่วนนี้ทางประกันสังคมได้แจ้งให้นายจ้าง ช่วยไปตรวจสอบดูว่าลูกจ้างมาตรา 33 ซึ่งจะได้รับเยียวยา 2,500 บาทนั้น แจ้งชื่อผิดหรือเปล่า บัญชีผิดไหม นามสกุลผิดไหม จะโอนให้อีกครั้งวันที่ 20 สิงหาคมนี้ ประกันสังคมจะโอนให้กับผู้ประกันตนมาตรา 33 รอบตกหล่นซึ่งมีอยู่ไม่มาก
ส่วนกรณีรับเงินเยียวยา 5,000 บาท สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 39 และมาตรา 40 รัฐมนตรีมีนโยบายจะขอเงินเพิ่ม ใน 13 จังหวัดแรก ปิดแล้ว 2 เดือน ทางรัฐมนตรีจะขอเพิ่มให้อีก 1 เดือน เพราะข้อเท็จจริงปิด 2 เดือนการโอนเงินในส่วนของมาตรา 40 จะเริ่มโอนเงินเยียวยาเข้าให้ วันแรกคือ วันที่ 24- 26 สิงหาคม 2564 เป็นการโอนเงินตามมาตรา 40ส่วนมาตรา 39 โอนเงินให้ก่อน 1 วัน คือโอนเงินให้วันที่ 23 สิงหาคม 2564 ทางประกันสังคม เปิดโอกาสให้แรงงานอิสระในกลุ่ม 13 จังหวัด สมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 เพิ่ม และได้ขยายเวลาจ่ายเงินสมทบงวดแรกภายในวันที่ 24 สิงหาคม
สำหรับอัตราการจ่ายเงินสมทบมาตรา 40 เข้ากองทุนประกันสังคมมี 3 อัตรา เนื่องจากเป็นช่วงโควิด ประกันสังคมได้ลดเงินสมทบ โดยอัตราการจ่ายเงินในงวดเดือนสิงหาคม 2564-มกราคม 2565 (ระยะเวลา 6 เดือน) ได้มีการประกาศลด ตามที่ราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศพระราชกฤษฎีกา เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2564 ดังนี้
ทางเลือกที่ 1 อัตราเดิมจ่ายสมทบ 70 บาท/เดือน อัตราลดเหลือ 42 บาท/เดือน มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน ในกรณีการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย
ทางเลือกที่ 2 อัตราเดิมจ่ายสมทบ 100 บาท/เดือน อัตราลดเหลือ 60 บาท/เดือน มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน ในกรณีการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย และกรณีชราภาพ
ทางเลือกที่ 3 อัตราเดิมจ่ายสมทบ 300 บาท/เดือน อัตราลดเหลือ 180 บาท/เดือน มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน ในกรณีการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย ชราภาพ และกรณีสงเคราะห์บุตร
อย่างไรก็ตาม สำหรับทางเลือกที่ 1 : ผู้ประกันตนจ่าย 70 บาท/เดือน จะไม่มีเงินสะสมที่รัฐบาลสะสมให้
ทางเลือกที่ 2 : ผู้ประกันตนจ่าย 100 บาท/เดือน มีเงินสะสมที่รัฐบาลสมทบให้ เงินเก็บ 50 บาท
ทางเลือกที่ 3 (ทางเลือกใหม่) : ผู้ประกันตนจ่าย 300 บาท/เดือน รัฐบาลสะสมให้เดือนละ 150 บาท