ทุกวันนี้การสั่งของออนไลน์ แทบกลายเป็นช่องทางการซื้อของหลักในช่วงโควิด 19 แบบนี้ โดยทางร้านค้าก็มีแผนการกระตุ้นการขายออกมารูปแบบใหม่เรื่อย ๆ หนึ่งในนั้นคือ การเก็บเงินปลายทาง เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้าว่าจะไม่ถูกโกง แต่วิธีนี้อาจจะเป็นปัญหาสำหรับคนขายแทน หากเจอลูกค้าที่ปฏิเสธการรับของ ทำให้เสียเงินค่าส่งฟรี ๆ ดังเช่นเรื่องที่เกิดขึ้นดังต่อไปนี้

เฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 1 โพสต์คลิปเรื่องราวการโต้เถียงกันระหว่างลูกค้ากับคนส่งพัสดุ ต้นเรื่องคือ คนส่งพัสดุมาส่งของให้ตามปกติ พร้อมกับเก็บเงินปลายทาง แต่ลูกค้าเห็นกล่องพัสดุบุบ จึงขอแกะกล่องเพื่อตรวจสอบของดูก่อน

ด้านพนักงานขนส่ง ก็รีบเบรกทันควันและบอกว่า "ทำไม่ได้" แต่ทางลูกค้าซึ่งเป็นลุงแก่ ๆ บอกว่า "มึงเอากฎไหนมา กูถามหน่อย กฎหมายมันมีไหม ไม่ให้ลูกค้าแกะดู กูถามหน่อย มันมีกฎหมายไหม ถ้ามึงไม่พอใจมึงไปฟ้อง" พนักงานเสียงอ่อนลง ไม่อยากมีเรื่องกับลูกค้า บอกว่าผมไม่ได้ไม่พอใจ แค่ทำตามกฎบริษัทเท่านั้น ถ้าต้นทางเขาอนุญาตก็สามารถทำได้ แต่ถึงอย่างไร ฝั่งลูกค้าก็อ้างกฎหมายว่าไม่ได้ห้ามอยู่ดี ทำให้พนักงานต้องปล่อยเลยตามเลย

นอกจากนี้ ลูกค้ายังบอกว่า ของที่สั่งมามีราคาเป็นหมื่น ยังไงก็ต้องแกะดูตรงนี้ ส่วนพนักงานพยายามชี้แจงว่า กล่องที่บุบแบบนี้ คาดว่าทางร้านน่าจะใช้กล่องเก่ามาส่ง แต่ทางลูกค้าก็โยนความผิดไปที่ฝั่งพนักงานขนส่งตามเดิมว่าส่งพัสดุมาไม่ดี หลังจากแกะและหยิบของออกมาดู ลูกค้ากลับโยนสินค้าลงกล่องคืน บอกไม่เอาของ และให้พนักงานตีกลับ ทางพนักงานก็ตอบรับด้วยน้ำเสียงแห้ง ๆ

ชาวเน็ตที่ได้ชมคลิปนี้ต่างวิจารณ์ลูกค้าไปในทางเดียวกัน ถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ตั้งแต่ลักษณะการพูดจาที่มีคำหยาบคาย ข่มขู่พนักงาน และไม่ให้เกียรติอีกฝ่าย พร้อมกันนั้น การแกะของออกมาแบบนี้ จะทำให้พนักงานเดือดร้อน พนักงานอาจจะต้องรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายเอง

นอกจากนี้ ชาวเน็ตยังแนะนำลูกค้า ถ้าหากเจอสถานการณ์กล่องบุบ ทางเลือกมีอยู่ 2 ทางคือ

1. แจ้งไปยังผู้ขายก่อนว่า พัสดุมีปัญหา ขอแกะได้ไหม ถ้าอีกฝ่ายอนุญาตค่อยทำ ไม่ใช่โมเมอ้างข้อกฎหมายว่า ไม่มีกฎหมายข้อไหนห้าม

2. เห็นสภาพกล่องพัสดุบุบยับเยิน ไม่ต้องแกะ ตีกลับทันที ซึ่งทางพนักงานจะเป็นคนทำเรื่องให้