ผุดแคมเปญ ขอแสนชื่อ พา พี่โทนี่ กลับบ้าน

ผุดแคมเปญ ขอแสนชื่อ พา พี่โทนี่ กลับบ้าน

เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ กล่าวถึงจากที่ตนเสนอข่าวในกรณีการนำอดีตนายก ทักษิณ ชินวัตร กลับไทย โดยในทางกฎหมายจะมีวิธีอยู่ 5 วิธี ซึ่งขอสงวนเป็นความลับไว้ก่อน

แต่เบื้องต้นจะทำการรวบรวมรายชื่อประชาชน จำนวน 1 แสนชื่อเพื่อเป็นไปตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเข้าชื่อเสนอกฎหมาย ปี 2564 โดยสาระสำคัญของ พ.ร.บ. การเข้าชื่อเสนอกฎหมาย ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 10,000 คน มีสิทธิเข้าชื่อกันเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โดยประชาชนสามารถเข้าชื่อเสนอร่างกฎหมายหรือร่างรัฐธรรมนูญต่อสภาผู้แทนราษฎรหรือประธานรัฐสภาได้ นายเพชรวรรต กล่าวต่อว่า หลังจากที่ได้หารือกับฝ่ายกฎหมาย จะนำเสนอ “พ.ร.บ.อภัยโทษแก่นักโทษการเมืองเพื่อความปรองดองสามัคคีของคนในชาติ” ต่อรัฐสภา เนื่องจากหากจะย้อนกลับไปดูต้นของสาเหตุของประเทศในสิบกว่าปีนี้ ประเทศไทยเราเหมือนจะถอยหลังลงคลอง

มีการโจมตีกันไปมาระหว่างขั้วการเมือง ทำให้ต้นเหตุของอดีตนายกทักษิณ ชินวัตร ที่ไม่สามารถกลับมายังประเทศไทยได้ ก็ด้วยเพราะการเมือง และการต่อสู้ทางกฎหมายก็ถูกโจมตีอยู่ฝ่ายเดียวโดยไม่ได้ฟังเหตุและผลของอีกฝ่าย หากจะนำอีกฝ่ายกลับมาก็เหมือนกับมีความไม่ปลอดภัยและได้ความยุติธรรมตามสิทธิมนุษยชน ตนจึงอยากจะให้ทุกคนทุกฝ่ายลองถอยคนละก้าว และหาทางออกร่วมกันอย่างปรองดองอย่างสมานฉันท์ และร่วมกันสร้างชาติ ไปด้วยกันโดยขอให้ตัดประเด็นการเมืองออกไปก่อน และลองหันหน้าเข้าหากันเพื่อร่วมกันแก้ปัญหา โดยเฉพาะ ปัญหา โควิด 19 ที่เป็นปัญหาเรื้อรัง กอปรกับปัญหาต่อจากนี้คือปัญหาเศรษฐกิจที่ยากนักที่เราจะฝ่าไปได้ หากเราไม่ช่วยเหลือกันและยังโจมตีกันอยู่อย่างนี้ ตนก็ยังมองไม่เห็นภาพที่ว่าประเทศไทยจะเป็นเมืองไทยมหารัฐตามคำทำนายได้อย่างไร การเชิญนายกทักษิณกลับมา จะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะแสดงให้ถึงจุดเริ่มต้นของบันไดก้าวแรก ที่จะทำให้ประเทศเราก้าวไปข้างหน้าได้ หากไม่เช่นนั้นเราก็จะเหมือนพายเรือในอ่างที่วนไปวนมา ดูประเทศเพื่อนบ้าน ก็เหมือนจะแซงเราไปเรื่อยๆ ประเทศมีแต่ช้ำและเสียหาย ด้วยเหตุนี้ตนจึงได้ตั้งแคมเปญเชิญทักษิณกลับไทย ด้วยการรวบรวมรายชื่อเพื่อเสนอต่อสภาต่อไป

ด้าน นายณพลเดช มณีลังกา ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย กล่าวเพิ่มเติมว่าจากที่ตนเป็นคนรุ่นใหม่ ได้เห็นภาพที่ประเทศไทยโจมตีกันไปมาด้วยการเดินถนน จนเป็นภาพที่ทำให้ขาดความเชื่อมั่นจากต่างชาติ จะเห็นได้ว่าฐานการผลิตต่างๆ มีการย้ายไปยังต่างประเทศไปมากมาย ด้วยความไม่เสถียรภาพทางการเมืองของประเทศไทย นักศึกษาจบใหม่ ปีแล้วปีเล่า ไม่มีงานทำ ทำงานไม่ตรงกับที่เรียนทุกคนไร้ความหวัง จะถึงเวลาหรือยังที่ประเทศไทยควรหันหน้าเข้าหากัน ทั้งนี้ทางทีมงานได้จัดแคมเปญ “เชิญทักษินกลับไทยสู้โควิด19” เพื่อให้ประชาชนเข้าชื่อ หากมีเป็นจำนวนมากก็จะแสดงถึงเจตนารมณ์ของปวงชนชาวไทยที่กำหนดทิศทางของประเทศโดยผู้สนับสนุนแคมเปญสามารถลงทะเบียน ผ่าน Link ชื่อ https://www.change.org/ทักษิณกลับไทย

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ