ผู้ประกันตน ม.33 แบบไหน ถึงได้รับ เงินเยียวยา 10,000 บาท
หลังจากที่มติ ครม. มีการเห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบของประชาชน กลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการ ซึ่งเกี่ยวพันกับผู้ประกันตนมาตรา 33, มาตรา 39 และมาตรา 40 โดยแต่ละคนจะได้รับเงินแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความเข้าใจง่ายจะมาสรุปเงื่อนไขของผู้ที่จะได้รับเงินเยียวยาส่วนนี้อีกครั้ง ในส่วนของผู้ประกันตน มาตรา 33 โดยจะมีคนได้รับเงินสูงสุดถึง 10,000 บาท เป็นใครนั้นมาดูเงื่อนไข ซึ่งจะต้องครบ 3 เงื่อนไขนี้เท่านั้นถึงมีสิทธิ์ได้เงินนี้
เงื่อนไขที่ 1 ต้องเป็นคนที่อยู่ในกลุ่มประกันสังคม มาตรา 33
- ลูกจ้างที่เป็นผู้ประกันตนตาม มาตรา 33 ท่านจะได้รับเงินครึ่งหนึ่งของเงินเดือน แต่ไม่เกิน 7,500 บาท หมายความว่า ท่านต้องเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 และมีเงินเดือน 15,000 บาทต่อเดือน จึงจะได้เงินเต็มเพดาน หากท่านเงินเดือนไม่ถึง 15,000 บาท ท่านจะได้รับเงินครึ่งหนึ่งของเงินเดือน ลดหลั่นลงมา จากนั้น ท่านจะได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลอีก 2,500 บาท เท่ากับว่า ท่านได้รับเงิน 7,500+2,500 = 10,000 บาท
- หากท่านผู้ประกอบการ มีลูกน้อง จะได้รับรายละ 3,000 บาท ต่อลูกจ้าง 1 คน สูงสุดไม่เกิน 200 คน
เงื่อนไขที่ 2 ต้องอยู่ใน 10 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มเท่านั้น
- กรุงเทพฯ
- นครปฐม
- นนทบุรี
- ปทุมธานี
- สมุทรปราการ
- สมุทรสาคร
- นราธิวาส
- ปัตตานี
- ยะลา
- สงขลา
เงื่อนไขที่ 3 ต้องประกอบอาชีพใน 9 อาชีพดังนี้
- อาชีพสถานบริการ
- อาชีพก่อสร้าง
- ร้านอาหาร
- อาชีพกลุ่มศิลปะ บันเทิง และสันทนาการ
- สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า
- สาขาการขายส่งและขายปลีก
- สาขาการซ่อมยานยนต์
- สาขากิจกรรมการบริหารและสนับสนุนวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และกิจกรรมวิชาการ
- สาขาข้อมูลข่าวสารและการศึกษา
ก่อนหน้านี้ ทางประกันสังคม เคยให้แนวทางในเรื่องการจ่ายเงินเยียวยา ว่า สำหรับขั้นตอนการจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเหตุสุดวิสัยของประเภทกิจการก่อสร้างนั้น นายจ้างต้องบันทึกข้อมูลดังกล่าวและยื่นหนังสือรับรองการขอรับประโยชน์ทดแทนฯ ของผู้ประกันตน ผ่านระบบ E-service แล้วรวบรวมแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนฯ (สปส.2-01/7) ส่งให้สำนักงานประกันสังคมที่รับผิดชอบทำการวินิจฉัยจ่ายเงินสิทธิประโยชน์ สำหรับกรณีกิจการก่อสร้าง จะทำการตัดจ่ายประโยชน์ทดแทนทุกวันศุกร์ และจ่ายเงินทุกวันจันทร์ถัดไป โดยนำไปจ่ายเป็นเงินสดที่หน้าแคมป์คนงานก่อสร้าง เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนในสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ส่วนอีก 3 ประเภทกิจการที่เหลือ จะโอนเข้าบัญชีธนาคารตามที่นายจ้างแจ้งผ่านระบบ E-service