จากกรณีพี่น้อง 4 แม่เฒ่า อายุตั้งแต่ 77-94 ปี ชาว จ.สุโขทัย ถูกไล่ให้ออกจากบ้านและที่ดิน เนื่องจากหลานเคยเอาโฉนดไปใช้กู้เงิน แล้วไม่มาใช้หนี้ ทำให้ที่ดินถูกขายทอดตลาดไปเมื่อปี 2562 ในราคา 9.8 แสนบาท ต่อมา ศาลสั่งขยายเวลา 4 แม่เฒ่า ย้ายออกจากบ้านไปอีก 30 วัน ล่าสุดยอดบริจาคช่วยเหลืออยู่ที่ 1.5 ล้าน แต่ทางด้านเจ้าหนี้ต้องการขายคืนในราคา 2 ล้านบาท

ล่าสุด (18 มิถุนายน 2564) ข่าวช่องวัน รายงานว่า นายปรีชา สุทนต์ นายอำเภอศรีสำโรง เปิดเผยว่า ตลอดเวลาเกือบ 20 ปี เจ้าหนี้ดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างถูกต้องมาโดยตลอด และไกล่เกลี่ยทุกครั้ง ทางเจ้าหนี้ก็ให้ความร่วมมือ จนล่าสุดยืดเวลาให้ 4 แม่เฒ่าอยู่บ้านเดิมได้อีก 30 วัน และต้องขนของออกจากพื้นที่ภายในเวลา 09.00 น. วันที่ 16 กรกฎาคม 2564

นายปรีชา ระบุอีกว่า อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายเพื่อพยายามไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้ให้ยอมขายบ้านและที่ดินคืน ถ้าไม่สำเร็จก็จะเตรียมจัดหาที่ดินสร้างบ้านหลังใหม่ให้กับ 4 แม่เฒ่าและครอบครัวรวม 7 คน โดยเงินทุนจะเป็นเงินที่ได้รับบริจาคมาที่มียอดอยู่ที่ 1,603,756 บาท หากมีเงินบริจาคเหลือ ก็จะวางแผนการใช้จ่าย โดยมีคณะกรรมการบริหารเงินบริจาคอย่างน้อย 5 คน เพื่อให้นำเงินบริจาคไปใช้ได้อย่าถูกต้องตรงตามวัตถุประสงค์มากที่สุด โดยรายงานข่าวระบุว่า 4 แม่เฒ่า ยังมีความหวังให้เจ้าหนี้ยอมขายบ้านและที่ดินคืนให้ แต่ก็ทยอยเก็บข้าวของไปฝากไว้ที่บ้านเช่าแล้ว และมองหาบ้านใหม่ที่จะซื้อ เป็นบ้านเดี่ยว 1 ชั้น ห่างจากบ้านเดิมราว 5.6 กิโลเมตร