เชษฐ์ สไมล์บัฟฟาโล่ ชีวิตง่ายๆพอเพียง
จากนักร้องบนเส้นทางสายดนตรี ยอมละทิ้งทุกอย่าง สู้ชีวิต แบบพอเพียง
หากพูดถึงวงดนตรีแนว Alternative ที่มีชื่อเสียงอีกหนึ่งวงในไทยคงจะต้องนึกถึงวงสไมล์บัฟฟาโล่เป็นอันดับแรกๆ ด้วยแนวทางดนตรีที่ไม่เหมือนใครในยุคนั้นพร้อมกับชื่อวงเก๋ๆที่แปลเป็นไทยว่ายิ้มสิควายก็โดนใจวัยรุ่นในยุคนั้นกันเป็นอย่างมาก
กาลเวลาผ่านไปแต่ละคนก็หันกลับไปใช้เส้นทางชีวิตของตนเองรวมถึงหนึ่งในสมาชิกวงอย่างเช่นวรเชษฐ์เอมเปีย มือกลองของวงที่ปัจจุบันได้ละทิ้งชีวิตนักดนตรีมาสู่การทำเกษตรทำไร่ทำนาตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง
เชฟได้เปิดเผยว่าเขาเป็นเกษตรกรเต็มตัวมานานกว่า 10 ปีแล้วในช่วงที่ตนเองดังทุกสิ่งทุกอย่างก็เข้ามาไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียงเงินทองรายได้ต่อวันเฉลี่ย 1 แสนบาท ใช้ชีวิตแบบประมาทเพราะ คิดว่าอยู่ในช่วงชีวิตที่รุ่งเรือง
แต่หลังจากนั้นจุดพลิกผันเริ่มจากที่ตนเองกลับมาดูแลคุณแม่ที่กำลังป่วยพอได้บวชก็เห็นสัจธรรมในชีวิตจึงได้ตัดสินใจขายรถขายบ้างขายโรงเรียนสอนดนตรีหลีกหนีความวุ่นวายชีวิตในเมืองมุ่งหน้าสู่บ้านเกิดปลูกป่าตามความต้องการของตนเองตามแนวคิดธรรมะธรรมชาติธรรมดา
ใช้พื้นที่ของตนเองในการปลูกป่าและจัดสรรพื้นที่ทำเกษตรทฤษฎีใหม่ปรับพื้นที่ตั้งแต่พื้นที่ว่างเปล่าเป็นทุ่งนาใหญ่ปลูกทั้งค่ามะม่วงมะกรูดมะพร้าวมีการเล่นดนตรีเพื่อการกุศลบ้างในบางครั้ง
ในช่วงแรกที่ได้เปิดเผยว่าตั้งใจจะปลูกข้าวกินเองใช้ปุ๋ยจากมูลสัตว์ให้พี่น้องชาวบ้านในละแวกนั้นแถมยังได้บรรยากาศธรรมชาติพอมีผลผลิตก็นำไปขายตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง
นอกจากการทำไร่ทำนาแล้วยังผุดทำโครงการโรงทาน สร้างโรงทานเพื่อช่วยเหลือ คนยากจนตามแนวทางที่ว่าพอเพียงเจอแบ่งปันรวมทั้งการเปิดคอนเสิร์ตเพื่อการกุศล ช่วยเหลือสัตว์ต่างๆอาทิสุนัขหมาแมว
.
.
.
.