แห่ชื่นชม ปลัดบุหลัน ดีกรีเกียรตินิยมอันดับ1
กลายเป็นที่ฮือฮาของชาวโซเชียล เมื่อเพจปลัดอำเภอพันธุ์เหล็ก เพจเฟซบุ๊กที่มักจะนำเสนอเรื่องการทำงานของปลัดอำเภอทั่วประเทศ และในคราวนี้ก็ได้แชร์เรื่องราวของปลัดอำเภอสาวสุดน่ารัก อย่างบุหลัน บุญรักษ์ ตั้งแต่แรงบัลดาลใจ การเตรียมตัว รวมถึงการทำงานในอาชีพ ทำให้เธอได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นอย่างมาก
หลัน-บุหลัน บุญรักษ์ เป็นปลัดอำเภอ ที่ทำการปกครองอำเภอจักราช จังหวัดนครราชสีมา เธอเป็นชาวจังหวัดนครราชสีมาโดยกำเนิด ปัจจุบันอายุ 28 ปี เธอจบการศึกษา ศิลปศาสตรบัณฑิต เกียรตินิยมอันดับ 1 จากสาขารัฐประศาสนศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ทั้งนี้แรงบันดาลใจในการมารับราชการในตำแหน่งปลัดอำเภอของบุหลันนั้นเริ่มต้นตั้งแต่เธอยังเรียนในมหาวิทยาลัย ในตอนนั้นจะมีกลุ่มวิชาที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานภาครัฐ การคิดนโยบาย การบริหารงานองค์กร หลังจากที่เธอได้ศึกษาก็รู้สึกว่าอยากจะรับราชการทั้งยังตรงกับความรู้ที่ได้เรียนมา
และยังมีกิจกรรมที่ให้รุ่นพี่สาขาฯ ที่เรียนจบไปแล้วมาแนะแนวรุ่นน้อง พี่ ๆ หลายคนที่เป็นปลัดอำเภอก็ได้มาแนะแนวพูดคุย ให้ความรู้ในเรื่องของการทำงาน เลยสนใจและอยากศึกษาการทำงานของอาชีพนี้ ทั้งยังรู้สึกว่าอาชีพนี้ได้ทำงานหลากหลายไม่ได้นั่งทำงานในสำนักงานอย่างเดียว มีการลงพื้นที่ การทำงานร่วมกับผู้นำชุมชน รู้สึกว่าเป็นการทำงานที่ต้องสนุก ท้าทายความสามารถ ทำให้เธอตัดสินใจที่จะสอบปลัดอำเภอ
ด้านการเตรียมตัวเพื่อว่ารับตำแหน่งปลัดอำเภอนั้น เธอใช้ระยะเวลานานพอสมควรตั้งแต่ที่ทราบข่าวว่าจะมีการเปิดสอบ ซื้อหนังสือจากติวเตอร์หลายท่านและก็อ่านพรบ.ตัวเต็ม ตัวสรุปสาระสำคัญ ทำข้อสอบ รวมถึงจัดตารางการอ่านหนังสือไว้ ซึ่งเธอยอมรับเลยว่าเธอไม่เคยต้องอ่านหนังสือมากขนาดนี้มาก่อน เธอกล่าวว่าการมีวินัยจึงถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก พอใกล้ช่วงโค้งสุดท้ายของการสอบเลยค่อนข้างทุ่มเทเป็นพิเศษ ทั้งยังออกกำลังกายเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการสอบภาคปฏิบัติ
เธอกล่าวว่า ปลัดอำเภอคือผู้ช่วยเหลือนายอำเภอ มีภารกิจสำคัญในการดูแลทุกข์สุขของประชาชน นอกจากการช่วยเหลือตามภารกิจหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายแล้ว ซึ่งในฐานะปลัดอำเภอประจำตำบลต้องสามารถให้ความช่วยเหลือ เป็นที่ปรึกษา และประสานเรื่องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้
ซึ่งการทำงานของเธอในทุกวันนี้คือ "การทำให้ประชาชนทุกข์น้อยลง สุขมากขึ้น" ประโยคดังกล่าวทำให้เธอรู้สึกว่าไม่ใช่เป็นการบอกให้เราแบกรับภารกิจและขจัดปัญหาทั้งหมดที่มีไปในทันที แต่เป็นการค่อยๆเรียนรู้และแก้ไขปัญหาให้เบาบางลง พราะปัญหาของประชาชนมีหลากหลายและต้องยอมรับว่าไม่มีพื้นที่ใดไม่มีปัญหา อยู่ที่จะมากจะน้อยแตกต่างกันไป แต่สำคัญคือเราต้องให้ความช่วยเหลือทุกคนทุกเมื่อ